พื้นพียู

พื้นพียู” หรือ “Plywood” คือวัสดุที่ใช้ในการสร้างแผ่นบางที่ประกอบด้วยชั้นแผ่นไม้หลายชั้นที่ถูกเรียงต่อกันและเปิดใช้งานในการสร้างโครงสร้างไม้ แผ่น Plywood มักถูกสร้างขึ้นโดยการเรียงแผ่นไม้ลามิเนตหรือไม้สนแล้วสับทับกันในทิศทางตรงข้าม โดยที่แต่ละชั้นของไม้จะถูกตัดไปที่มุมต่างๆ ที่สามารถแต่งงานกับความเข้ากันได้เพื่อให้ความแข็งแรงและความคงทนต่อการแปรรูปที่เป็นไปได้ในการใช้งานทั่วไป

Plywood มีความหลากหลายในการใช้งานและสามารถนำมาใช้ในโครงสร้างไม้, การสร้างเฟอร์นิเจอร์, การสร้างบ้าน, การทำรถและงานฝีมืออื่น ๆ ด้วยความแข็งแรงและความคงทนที่มีอยู่ ระยะเวลาการใช้งานและคุณภาพของแผ่น Plywood ขึ้นอยู่กับวัสดุพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตและกระบวนการการผลิตที่ถูกใช้ มีหลายประเภทของ Plywoodที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในสถานการณ์และการใช้งานที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของประเภท Plywood รวมถึง Plywood หล่อลื่น (Marine Plywood) ที่มีความทนทานต่อน้ำมาก

สำหรับงานโครงสร้าง (Structural Plywood) ที่ใช้ในงานสร้างบ้านและโครงสร้าง, และ Plywood สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Plywood) ที่ใช้ในการสร้างเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมี Plywood ที่มีการติดตั้งผิวแต่งเพื่อความสวยงามและความสามารถในการยิงสีอีกด้วย เช่น Plywood ที่มีการติดผิวแต่งพลาสติก (Plastic Laminate Plywood) หรือ Plywood ที่มีผิวเรนโนวานซ์ (Veneer Plywood) เพื่อให้มีลักษณะด้านตัวแบบไม้จริง

พื้นพียู" (Plywood) และ "พื้นอีพ็อกซี่" (Epoxy Flooring)

เป็นวัสดุที่ใช้ในการปูพื้นแต่มีลักษณะและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างมาก:

1.วัสดุและสรรพสิ่ง:

พื้นพียู: พื้นพียูถูกสร้างขึ้นโดยการเรียงแผ่นไม้หลายชั้นที่ถูกต่อกันและปิดผิวด้วยชั้นผิวที่ทาด้วยยิปสต์ (Veneer) หรือโพสต์เฟอร์นิเจอร์ (Particleboard) แผ่น Plywood มักถูกนำมาใช้ในโครงสร้างไม้หรือเป็นส่วนสำคัญของงานตกแต่งภายใน เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและคงทนต่อการกดหรือบิดอย่างดี และมักถูกนำมาใช้ในการสร้างพื้นบ้านหรืออาคารทั่วไป.

พื้นอีพ็อกซี่: พื้นอีพ็อกซี่คือระบบปูพื้นที่ใช้สารอีพ็อกซี่ (Epoxy Resin) เป็นส่วนหลัก สารอีพ็อกซี่นี้เป็นสารที่มีความหนืดแข็งแรงสูงและต่อต้านการกัดกร่อน พื้นอีพ็อกซี่มักถูกนำมาใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงและคงทนต่อการสูญเสีย ได้แก่ โรงงาน, โกดัง, ห้องครัว, โรงพยาบาล, โรงเรียน, และพื้นโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ

2.ความแข็งแรงและการทนทาน:

พื้นพียู: Plywood มีความแข็งแรงและคงทนต่อแรงกดดี แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานต่อสภาพแวดล้อมหรือสารเคมี ดังนั้นมันไม่เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีอย่างบ่อย.

พื้นอีพ็อกซี่: พื้นอีพ็อกซี่มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อสารเคมี นอกจากนี้ยังสามารถทนต่อการกัดกร่อนและการทับตะเกียงได้ดี มันเหมาะสำหรับการใช้ในสถานที่ที่ต้องการความทนทานและความสะอาด เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ.

3.การการ์ดดูดสี:

พื้นพียู: พื้นพียูมักมีการดูดสีน้อย และสามารถทาสีหรือลามิเนตเพื่อให้มีลักษณะการแต่งงานที่หลากหลายได้.

พื้นอีพ็อกซี่: พื้นอีพ็อกซี่มีการ์ดดูดสีน้อยมาก ซึ่งทำให้มีความสามารถในการสร้างพื้นที่ที่มีลักษณะการตกแต่งที่สวยงามและสีสันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังสามารถใส่ลามิเนตหรือรูปลักษณะอื่น ๆ เพื่อตกแต่งพื้นได้.

สรุปแล้ว พื้นพียูและพื้นอีพ็อกซี่เป็นวัสดุที่ใช้ในการปูพื้นแต่มีลักษณะการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันของคุณ.

พื้นอีพ็อกซี่1

พื้นพียูมีหลายประเภทตามวัสดุและการนำไปใช้งานต่าง ๆ ดังนี้:

1.พื้นพียูสำหรับงานโครงสร้าง (Structural Plywood): พื้นพียูประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานสร้างบ้านและโครงสร้างต่าง ๆ มีความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกดดี มักใช้ในการสร้างกระเบื้องพื้นหรือแผ่นพื้นสำหรับโครงสร้าง

2.พื้นพียูสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Plywood): พื้นพียูประเภทนี้มีการติดผิวแต่งเพื่อให้มีลักษณะการแต่งงานที่สวยงาม มักถูกนำมาใช้ในการสร้างเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ

3.พื้นพียูหล่อลื่น (Marine Plywood): พื้นพียูประเภทนี้มีความทนทานต่อน้ำมาก มักใช้ในงานที่ต้องมีการสัมผัสกับน้ำอย่างต่อเนื่อง เช่น การสร้างเรือหรือโครงสร้างที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชุ่มน้ำ

4.พื้นพียูที่มีผิวเรนโนวานซ์ (Veneer Plywood): พื้นพียูประเภทนี้มีผิวเรนโนวานซ์ที่สวยงามและนำมาใช้ในงานตกแต่งที่ต้องการความสวยงาม เช่น การปูผนังหรือเฟอร์นิเจอร์.

5.พื้นพียูที่มีการติดผิวแต่งพลาสติก (Plastic Laminate Plywood): พื้นพียูประเภทนี้มีผิวเรนโนวานซ์ที่ถูกติดผิวแต่งพลาสติกเพื่อความทนทานต่อการสัมผัสกับน้ำ หรือสารเคมี มักใช้ในงานที่ต้องการความทนทานและความสะอาด เช่น ในห้องครัวหรือห้องน้ำ.

พื้นพียูมีความลื่นได้ขึ้นอยู่กับประเภทของ Plywood และการจัดการผิวของมัน พื้นพียูที่ไม่มีการจัดการผิวเพิ่มเติมอาจมีความลื่นเพียงในระดับปกติของไม้หรือไม้ลามิเนตที่ใช้ในการผลิต แต่มันไม่ถือเป็นพื้นผิวลื่นโดยเฉพาะ ถ้าคุณต้องการพื้นผิวลื่นมากขึ้น เราสามารถดำเนินการต่อพื้นพียูโดยการทาผิวเพิ่มเติมหรือใช้วัสดุแต่งตัวเพิ่มเติมเช่นลามิเนตเพื่อให้มีความลื่นมากขึ้น ดังนั้น ความลื่นของพื้นพียูสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของโครงการและการใช้งานที่แตกต่างกันได้.

พื้นพียูมีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ดังนี้:

ข้อดีของพื้นพียู:

1.ความแข็งแรงและคงทน: Plywood มีความแข็งแรงและคงทนต่อแรงกดและแรงยืดดี ทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานในโครงสร้างไม้และสิ่งก่อสร้างทั่วไป

2.ความหลากหลาย: Plywood มีหลายประเภทและความหลากหลายในการใช้งาน เช่น Plywood สำหรับงานโครงสร้าง, Plywood สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์, Plywood หล่อลื่น, และอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีความสามารถในการปรับใช้กับโครงการต่างๆ

3.การติดตั้งง่าย: Plywood มีความเรียบง่ายในการติดตั้งและแต่งงาน เรียบง่ายที่จะตัดและเชื่อมต่อเพื่อให้พอดีกับขนาดและรูปร่างของโครงการ

4.ราคาเหมาะสม: Plywood มักมีราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ และมีคุณภาพที่ดีเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย

5.ความมั่นคงและไม่เกิดเปลี่ยนรูป: Plywood มีความมั่นคงต่อการแปรรูปของชุดต่าง ๆ และไม่เสี่ยงต่อการบิดหรืองอเมื่อเป็นรูปแบบที่ถูกสร้างอย่างถูกต้อง

 

ข้อเสียของพื้นพียู:

1.การทนต่อน้ำ: Plywood มักมีปัญหาในการทนต่อน้ำและสูญเสียความแข็งแรงเมื่อเผชิญกับน้ำในระยะเวลายาว ถ้ามีการใช้ Plywood ในสถานที่ที่มีความชุ่มน้ำบ่อย ๆ ควรใช้ Plywood ประเภทพื้นลื่น (Marine Plywood) หรือวัสดุที่ทนต่อน้ำมากกว่า.

2.เรื่องการตัดและเชื่อม: Plywood อาจมีปัญหาในการตัดและเชื่อม การตัดที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ขอบมีความหยาบหยาม และการเชื่อมบางครั้งอาจเป็นไปได้แต่ไม่ใช่ง่าย

3.การทนต่อสภาพแวดล้อมและสารเคมี: Plywood ไม่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมหรือสารเคมีได้ดีเท่าบางวัสดุอื่น เช่น พื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy Flooring) ที่มีความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน

4.การเก็บรักษาและการดูแล: Plywood อาจต้องการการดูแลเพิ่มเติมและการทาน้ำยิปสต์หรือลาครเฟตเพื่อป้องกันการทำลายจากสภาพแวดล้อมหรือแสงแดด

5.สีและแสง: Plywood อาจมีความลัดเลียนในการแสดงสีและแสงที่ไม่เท่ากับวัสดุอื่น เช่น ไม้จริง และอาจต้องการการปรับแต่งเพื่อให้มีลักษณะการแต่งงานที่ถูกใจ

6.การทนต่อเสียง: Plywood อาจมีความต่ำในการทนต่อเสียงและการเข้ารหัส ซึ่งอาจต้องการการซับเสียงเพิ่มเติมในบางสถานการณ์

 

ราคาพื้นพียูต่อตารางเมตร

สามารถแปรผันไปตามหลายปัจจัย เช่น ประเภทของ Plywood, คุณภาพของวัสดุ, สถานที่ที่คุณซื้อ, และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของคุณ ราคาเป็นเรื่องที่มีความหลากหลายมาก ดังนั้นควรติดต่อร้านค้าหรือผู้ผลิตท้องถิ่นเพื่อขอข้อมูลราคาที่แน่นอนสำหรับพื้นพียูที่คุณสนใจในพื้นที่ของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ราคาอาจแตกต่างขึ้นอยู่กับประเทศและภูมิภาคของคุณด้วย

อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ราคาพื้นพียูทั่วไปอาจอยู่ในช่วงราคา 500-1,000 บาทต่อตารางเมตร แต่คุณอาจพบราคาที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของ Plywood และคุณภาพของวัสดุที่คุณเลือก ในกรณีที่คุณต้องการ Plywood ที่มีคุณสมบัติพิเศษเช่น Plywood ทนต่อน้ำหรือ Plywood ที่มีการติดผิวเรนโนวานซ์หรือโพสต์เฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม ราคาก็อาจสูงขึ้นตามนั้น เพื่อที่จะรู้ราคาที่แน่นอนและปรับปรุงได้ที่สุด คุณควรเรียกถามร้านค้าหรือผู้ผลิตที่คุณต้องการที่อยู่ใกล้บ้านของคุณหรือร้านราคาวัสดุสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

สายด่วน สั่งได้ดั่งใจ 
📲  096-439-6466

 Facebook : @epoxydee

Line : พื้นอีพ็อกซี่

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *